วันอาทิตย์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

หนังชนโรง: Spider-Man: Homecoming เด็กบ้าน ๆ ที่อยากปกป้อง


หนังชนโรง:  Spider-Man:  Homecoming เด็กบ้าน ๆ ที่อยากปกป้อง

ไม่น่าเชื่อว่าภายในระยะเวลา 15 ปี เราได้ดูการรีบู้ทส์สไปเดอร์แมนมากถึง 3 รอบ! (แซม ไรมีในปี 2002, มาร์ค เว็ปป์ในปี 2012 และล่าสุดปีนี้ จอห์น วัตต์) ปัญหาหนึ่งของสไปเดอร์แมนก็ไม่ต่างกับแบทแมนก็คือ การที่คนดูต้องมานั่งดูการตายของลุงเบ็น (สไปเดอร์แมน) หรือพ่อแม่ตระกูลเวย์น (แบทแมน) ไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่คนดูจะไม่ได้เห็นใน  Spider-Man:  Homecoming และเมื่อหนังอยู่ในมือต้นกำเนิดอย่างมาร์เวล หนังจึงมีทิศทางของตนเองที่หลีกเลี่ยงความ ซ้ำซาก และกลายเป็นหนังสไปเดอร์แมนที่ดีที่สุดอีกเรื่องหนึ่ง



หลังจากถูกดึงเข้าไปร่วมภารกิจ Civil War ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ หรือ สไปเดอร์แมนที่ได้รับชุดสุดไฮเทคจากโทนี่ สตาร์ค และรอคอยอย่างใจจดจ่อกับการเรียกไปร่วมภารกิจกับทีมอเวนเจอร์สครั้งต่อไป  ในขณะที่ชีวิตปกติของปีเตอร์คือนักเรียนไฮสกูลที่เหมือนพวกขี้แพ้ มีเพื่อนแบบเดียวกัน และแอบปิ๊งลิซดาวโรงเรียน ส่วนในภาคซูเปอร์ฮีโร่ สไปเดอร์แมนต้องเข้าไปพัวพันกับการปรากฎตัวของวายร้ายในชุดนกเหล็ก วัลเฌอร์ ที่ฉากหน้าคือ แอเดรียน ทูมส์ นักธุรกิจเก็บกู้ย้ายซากสงครามอเวนเจอร์ส แต่ลับหลังแอบดัดแปลงเป็นอาวุธสงครามไฮเทคเพื่อขายในตลาดมืด  ถึงเวลาที่ปีเตอร์จะต้องเรียนรู้เส้นทางการเป็นซูเปอร์ฮีโร่อย่างแท้จริง

ด้วยความสามารถส่วนตัวด้านยิมนาสติกซึ่งมีส่วนช่วยทำให้การขึ้นจอของสไปเดอร์แมนในครั้งนี้ดูเข้าท่าเข้าที การก้าวเข้าของทอม ฮอลแลนด์ ในการเป็นปีเตอร์ พาร์คเกอร์ ที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่ม (โทบี้ แม็กไกร์ว, แอนดรูส์ การ์ฟิลด์)  จึงถูกนำเสนอในแคแรกเตอร์เด็กบ้าน ๆ ที่ดูเนิร์ด จิตใจดีงาม แต่ขาดประสบการณ์ หลาย ๆ ครั้งในการทำหน้าที่ซูเปอร์ฮีโร่ที่ขาด ๆ เกิน ๆ และยังต้องได้รับการชี้แนะ ซึ่งฮอลแลนด์สอบผ่านและได้ใจคนดูทั่วไป และติ่งสไปเดอร์แมนที่พวกเขาได้พบกับสไปดี้ที่เขารู้จักจากคอมิคส์ (เสียที) และไม่ว่า  Spider-Man:  Homecoming จะเป็นอย่าไรบน Box Office เควิน ไฟกี นายใหญ่มาร์เวลก็เตรียมให้ฮอลแลนด์ ได้ไปต่อใน Avengers:  Infinity War 2 ภาค และอะไรที่เป็น Homecoming ขึ้นชั้นปี 2 และปี 3 แบบเดียวกับพ่อมดแฮร์รี่ พ็อตเตอร์นั่นเลย

วัลเฌอร์-แอเดรียน ทูมส์ ที่ในคอมมิกส์คือมนุษย์นกแร้ง แต่ในหนังคือนักธุรกิจที่รับผลพวงจากการเทคโอเวอร์ของสตาร์ค อินดัสตรีที่ชักใยหลังทีมแดมเมจคอนโทรลของรัฐบาล  ไมเคิล คีตัน ที่มักถูกโฉลกกับอะไรที่มีปีก (ค้างคาว-Batman, นักแสดงตกอับที่เคยรับบทมนุษย์นก-Birdman ที่ยั่วล้อแบทแมนของคีตันอีกที) คีตันดูดีเสมอในบทชายที่ (เหมือนจะ) เป็นคนดี แต่ซ่อนความร้ายกาจสุด ๆ ไว้ฉากหลัง  วัลเฌอร์ของคีตันคือผู้ประกอบการที่ถูกผลักให้เป็นคนร้ายเพื่อความอยู่รอดของธุรกิจตนเอง

หากฮอลแลนด์คือปีเตอร์ที่เด็กสุดในเฟรนไชส์  ป้าเมย์ของมาริสา โทเมย์ ก็เป็นคุณป้าที่สาวที่สุดเหมือนกัน  ป้าเมย์ในเวอร์ชันของโทเมย์ที่เป็นเหมือนพี่สาวคนโตคอยดูแล อย่างเข้าอกเข้าใจการก้าวสู่ฮอร์โมนวัยว้าวุ่นของหลานชาย  ซึ่งเป็นภาพที่ต่างจากป้าเมย์ (ที่เหมือนยาย) ของ โรสแมรี่ แฮร์ริส (Spider-Man 1-3) และ ป้าเมย์ (ที่เหมือนมนุษย์ป้าวัยเกษียณ) ของแซลลี่ ฟิลด์ (The Amazing Spider-Man 1-2)

เจคอป บาทาลอน เป็น เน็ด เพื่อนซี้ของปีเตอร์  ทำหน้าที่สนับสนุนเพื่อนในทุกเส้นทาง และเป็นตัวตบมุกฮาของหนัง




ลอว์รา แฮริเออร์ เป็น ลิซ สาวที่ปีเตอร์ปลื้มเป็นพิเศษ  ซึ่ง She ดูดี ชวนไขว่คว้า อย่างที่เราเห็นในหนังไฮสกูลทั้งหลาย





เซนดายา เป็น มิเชลล์ เพื่อนสาวร่วมชั้นที่เหมือนอาร์ตตัวแม่



โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียรส์ กับการเป็น โทนี สตาร์ค (ครั้งที่เท่าไรไม่รู้) ผู้ทำหน้าที่เหมือนพ่อที่คอยแนะนำวิถีการเป็นซูเปอร์ฮีโร่อย่างแท้จริงให้แก่ปีเตอร์  แต่ก็แนะนำในแบบโทนี สตาร์คนั่นล่ะนะจอน แฟฟโร กลับมารับบทเป็น แฮปปี้ โฮแกน อีกครั้งหลังจาก Ironman 3 มาคราวนี้แฮปปี้ทำหน้าที่พี่เลี้ยงเด็กตามคำสั่งของเจ้านายคริส อีแวนท์ ปรากฎตัวในบท กัปตันอเมริกา ในแบบที่ชวนฮา ส่วนแบบไหนไปดูกันเอาเอง
เพิ่งผ่านหนังอินดี้อย่าง Cop Car ที่มี เควิน เบคอน เป็นตำรวจเลว จอห์น วัตต์ ได้รับโอกาสให้กำกับภาคนำเดี่ยวยกเครื่องของไอ้แมงมุม  วัตต์ที่ก้าวเข้ามาพร้อมกับธง ที่ปักหลักจะไม่เล่าเรื่องลุงเบ็นตายเหมือนที่ผ่านมา ด้วยความที่ถือว่าคนดูรู้กันอย่างดีแล้ว


โดยอาศัยแรงบันดาลใจจากหนังวัยรุ่นไฮสกูลของ จอห์น ฮิวส์ เลยจับมายำใหญ่กับหนังซูเปอร์ฮีโร่ จนคนดูได้เห็นการใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียน กับผองเพื่อน ปกป้องเมือง ด้วยมุมมองของเด็กวัยทีน จนอาจกล่าวได้ว่าหนังไอ้แมงมุมเรื่องนี้เป็นหนังแนว Coming of Age (ก้าวพ้นวัย) ที่มีฉากหลังเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ก็ว่าได้



งานแอ็คชั่นยังทำได้ดีงามตามคุณภาพหนังมาร์เวล  หากแต่ก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่ เวอร์วังอลังการ ซึ่งเข้ากันดีกับธีมของหนังที่ตัวเอกเป็นเพียงเด็กบ้าน ๆ ที่ต้องต่อกรกับวายร้ายที่ไม่ได้คิดครองโลก เพียงแค่ปกป้องธุรกิจของตนเองด้วยวิธีผิด ๆ เท่านั้น

Spider-Man:  Homecoming ถือเป็นหนังดีงามอีกเรื่องสำหรับเยาวชนที่จะได้เรียนรู้การเติบโตทางความคิด และจิตวิญญาณ และเป็นหนังสไปเดอร์แมนที่ดีที่สุดหลังจาก Spider-Man 2 ครับท่านผู้ชม  ส่วนที่กลายเป็นเหมือนคำถาม มีอะไรหลังจบเครดิตไหม คำตอบคือ มี และได้อึ้งกันเลยล่ะ
ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ต้องเรียนรู้ว่า การเป็นซูเปอร์ฮีโร่ไม่ใช่มาจากชุดฟอร์มสุดไฮเทค แต่มันมาจากข้างใน จากใจที่พร้อมจะอุทิศเพื่อช่วยเหลือคนอื่นด้วยกำลังความสามารถของตนเองเท่าที่ทำได้  เราทุกคนจึงสามารถทำสิ่งดี ๆ ให้แก่สังคมได้โดยไม่ต้องพึ่งพลังพิเศษ เพียงแต่เรามีสิ่งที่เรียกว่า จิตอาสา
Spider-Man:  Homecoming (2017)  Directed:  Jon Watts/Starring:  Tom Holland, Michael Keaton, Jon Favreau, Zendaya, Donald Glover, Tyne Daly, Marisa Tomei, Robert Downey Jr./Screenplay:  Jonathan Goldstein, John Francis Daley, Jon Watts, Christopher Ford, Chris McKenna, Erik Sommers/Story:  Jonathan Goldstein, John Francis Daley/Based on Spider-Man:  Stan Lee, Steve Ditko/Music:  Michael Giacchino/Director of Photography:  Salvatore Totino/Edited:  Dan Lebental, Bebbie Berman/Produced:  Kevin Feige, Amy Pascal/Production Company:  Columbia Pictures, Marvel Studios, Pascal Picutres/Distributed:  Sony Pictures Releasing/Running time:  133 Mins/Rated:  G
Trailer:  https://www.youtube.com/watch?v=SM34uJLlUyM  by  Sony Pictures Thailand
ส่วน Trailer นี้คือฉากที่ป้าเมย์และปีเตอร์ทานอาหารในร้านอาหารไทย ซึ่งปรากฏภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนไทย และน่าจะเป็นความตั้งใจของมาร์เวล สตูดิโอที่ตั้งใจนำเสนอฉากดังกล่าวเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ลองคลิกเข้าไปชมกันนะครับ   
ขอบคุณที่มาข้อมูล:  IMDb, Wikipedia, Youtube, Rotten Tomatoes, Sony Picutures Thailand, MarvelWikia, Furious Trailer
ขอบคุณที่มาภาพประกอบ:  moviemint.com, kinofilms.ua, youtube.com, Baltana, comicbook.com, yahoo.com, redcarpetrefs.com, The Indian Express, Den of Geek, Just Jared, Nerdist, oohlo.com, Screen Rant, theplaybook.asia, Blasting News